บล็อกสำหรับฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษ เหมาะสำหรับทุกคน

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

Learning Log out Class 17th December, 2010



สรุป 4 แบบ ของการใช้ If-Clause

แบบที่ 1 If + Present Simple, Present Simple


วิธีใช้ ใช้กับเหคุการณ์ที่เป็นความจริง
เช่น
If you heat water, it boils.
(ถ้าคุณต้มน้ำ น้ำก็เดือด)
If you get here before seven, we can catch the early train.
(ถ้าคุณมาถึงที่นี่ก่อน 7 โมง เราก็สามารถขึ้นรถไฟไปได้เร็ว)
I can’t drink alcohol if I have to drive.
(ฉันไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์ถ้าฉันต้องขับรถ)

แบบที่ 2 If + Present Simple, Will + V1

วิธีใช้ ใช้กับเหคุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน
เช่น
If I have enough money, I will go to Japan.
ถ้าฉันมีเงิน ฉันจะไปญี่ปุ่น)
If he is late, we will have to the meeting without him.
ถ้าเขามาสาย เราจะต้องเริ่มการประชุมโดยไม่มีเขา)
I won’t go outside if the weather is cold.
(ฉันจะไม่ออกไปข้างนอกถ้าอากาศมันเย็น)

แบบที่ 3 If + Past Simple, would + V1 (would แปลว่า น่าจะ) (Past Simple à V2)

วิธีใช้ ใช้กับเหคุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในปัจจุบัน หรือ อนาคต
เช่น
If I knew her name, I would tell you.
(ถ้าฉันรู้ชื่อเธอ ฉันก็น่าจะบอกคุณ) [จริงๆ แล้วไม่รู้จักชื่อเธอ]
She would be safer if she had a car.
(เธอน่าจะปลอดภัยกว่านี้ ถ้าเธอมีรถ) [จริงๆ แล้วเธอไม่มีรถ]
It would be nice if you helped me do the housework.
[มันน่าจะดีถ้าคุณได้ช่วยฉันทำงานบ้านบ้าง] [จริงๆ แล้วเธอไม่ช่วยเลย]

แบบที่ 4 If + Past perfect, would have + V3 (Past perfect -> Had + V3)

วิธีใช้ ใช้กับเหคุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในอดีต
เช่น
If you had worked harder, you would have passed your exam.
(ถ้าคุณขยันให้มากกว่านี้ คุณก็น่าจะสอบผ่าน) [จริงๆ แล้วสอบตกไปแล้ว]
If you had asked me, I would have told you.
(ถ้าคุณถามฉัน ฉันก็น่าจะบอกคุณไปแล้ว) [จริงๆ แล้วคุณไม่ได้ถาม]
I would have been in big trouble if you had not helped me.
(ฉันน่าจะมีปัญหาไปแล้ว ถ้าคุณไม่ได้ช่วยฉันไว้) [จริงๆ แล้วคุณช่วยฉันไว้]
If I had met you before, we would have been together.
(ถ้าฉันพบคุณก่อนหน้านี้ เราก็น่าจะได้อยู่ด้วยกันไปแล้ว) [จริงๆ แล้วฉันพบคุณช้าไป]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น